ถุงซีลสูญญากาศคืออะไร ดีกว่าถุงธรรมดาอย่างไร

  อาหาร  ของกิน และของสด ทุกชนิดนั้นเป็นเรื่องธรรมดาที่จะเริ่มเกิดมีการบูดหรือเสียหลังจากที่ได้เก็บเกี่ยวหรือหลังจากที่ได้มีการแปลรูปขึ้นมาซึ่งจะทำให้มีรสชาติที่ไม่ดีหรืออาจมีกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์เกิดขึ้นได้หลังจากที่อาหารมีการเกิดการเสื่อมสภาพ

 

     เพื่อชลอการเสื่อมสภาพหรือเพิ่มอายุการจัดเก็บเพื่อให้อาหารมีความสดได้นานขึ้น มนุษย์จึงได้คิดค้นเทคนิคและวิธีการต่างๆเพื่อเก็บรักษาอาหารหรือการถนอมอาหารให้สามารถเก็บได้นานขึ้น รายละเอียดต่างๆจะมีดังต่อไปนี้

  1. การควบคุมอุณหภูมิ – การใช้อุณหภูมิต่ำ / สูงเช่นการแช่เย็น, การแช่แข็ง, การฆ่าเชื้อ ฯลฯ เป็นต้น
  2. การควบคุมความชื้น – การนำความชื้นในอาหารออกเพื่อทำให้แห้ง การตากแห้ง, การอบแห้ง
  3. การใช้สารเคมี – เกลือน้ำตาลและกรดต่างๆ เพื่อทำให้อาหารเก็บได้นานขึ้น
  4. วิธีการทางกายภาพ – การปรับแต่งบรรยากาศบรรจุภัณฑ์, การสูญญากาศ และการฉายรังสีอาหาร

     วิธีการหนึ่งของการถนอมอาหารคือการปิดผนึกด้วยถุงสูญญากาศ วิธีนี้ได้กลายเป็นที่นิยมมากขึ้นและเป็นวิธีการของการขยายการเก็บรักษาของผลิตภัณฑ์อาหารโดยไม่ต้องมีผลกระทบต่อคุณภาพของอาหาร อุตสาหกรรมการผลิตอาหารแปรรูปได้ใช้เทคนิคนี้มาเป็นเวลาหลายสิบปีแล้ว

การปิดผนึกสูญญากาศนั้นทำงานโดยการเอาอากาศออกจากบรรจุภัณฑ์ (เพราะเชื้อราและแบคทีเรียต่างๆที่ทำให้อาหารบูดหรือเสื่อมสภาพนั้นจะต้องใช้ Oxygen ในการเติบโตด้วย) และทำให้ลดผลกระทบของการเกิดออกซิเดชั่น การเกิดการออกซิเดชั่นเป็นกระบวนการที่ก๊าซออกซิเจนสร้างปฏิกิริยาทางเคมีที่มีผลกระทบกับความสดใหม่และคุณค่าทางโภชนาการและคุณภาพอาหารโดยรวม โดยทั่วไปอากาศเป็นศัตรูของความสดของอาหาร ออกซิเจนและความชื้นในอากาศทำให้อาหารเกิดการเสื่อมสภาพ ถุงสูญญากาศสามารถชะลอตัวของการเน่าเสียและการเสื่อมสภาพจากการช่วยในการควบคุมเชื้อราและการเจริญเติบโตของแบคทีเรียให้ช้าลง

 

     อาหารที่แพ็คโดยใช้วิธีการสูญญากาศจึงมีความแตกต่างจากการที่ใช้วิธีการแพ็คแบบธรรมดาทั่วไปเช่นการแพ็คใส่ถุงพลาสติกหรือบรรจุภัณฑ์พลาสติกอื่นๆที่จะมีอากาศค้างอยู่ในบรรจุภัณฑ์นั้นๆ ซึ่งถุงสูญญากาศจะเป็นวิธีการซีลและดูดอากาศออก คุณภาพของอาหารที่บรรจุอยู่ในถุงสูญญากาศจึงมีความสดกว่าถึง 3-5 เท่ามากกว่าวิธีการเก็บแบบธรรมดา และยังช่วยป้องกัน ไม่ให้เกิดการเผาไหม้ในช่องแช่แข็ง (คล้ายการโดนหิมะกัดเวลาอยู่ในที่ที่มีความเย็นต่ำ)

 

     อย่างไรก็ตามบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะแก่การนำมาใช้สูญญากาศนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องมีการทำความเข้าใจและมีการเลือกใช้ให้ถูกต้อง ซึ่งโดยปกติหลายๆคนอาจจะเข้าใจว่าการทำบรรจุภัณฑ์สูญญากาศนั้นจะใช้ถุงอะไรก็ได้เพียงแต่มีเครื่องทำสูญญากาศก็เพียงพอแล้ว แต่ความเป็นจริงนั้นถุงที่จะใช้นั้นจะต้องคำนึงถึงด้วยว่ามีความเหมาะสมกับการที่จะนำมาใช้งานหรือไม่ โดยทั่วไปถุงที่จะนำมาสูญญากาศนั้นควรจะต้องมีคุณสมบัติการซึมผ่านของอากาศได้น้อยมาก ซึ่งค่าการซึมผ่านของอากาศในที่นี้จะเรียกว่า OTR (Oxygen Transmission Rate) ซึ่งจะมีหน่วยเป็น cc/m?/24hr (ถุงไนล่อนที่มีความหนาของชั้นไนล่อน 15 ไมครอนจะมีค่า OTR ? 30 cc/m?/24hr (มีความหมายว่าภายใน 24 ชั่วโมงบนพื้นที่ของถุง 1 ตารางเมตรนั้น อากาศจะสามารถซึมผ่านได้ไม่เกิน

30 cc ) ค่า OTR นั้นยิ่งมีน้อยเท่าไหร่ก็ยิ่งดีเท่านั้น ซึ่งโดยปกติค่า OTR ของพลาสติกแต่ละชนิดก็จะไม่เท่ากัน ซึ่งหลายๆคนอาจจะไม่เคยรู้ด้วยซ้ำว่าถุงที่เหมาะแก่การสูญญากาศนั้นควรใช้เนื้อพลาสติกชนิดใด สำหรับคำศัพท์ที่ใช้เรียกถุงสูญญกาศนั้นที่มักได้ยินกันทั่วไปก็จะมี ถุงสูญญากาศ, ถุงแว๊คคั่ม, ถุงซีล 3 ด้าน และ ถุงลามิเนต ซึ่งจริงๆแล้วคำเหล่านี้เป็นแค่เพียงการเรียกชนิดของถุงเท่านั้น ส่วนเรื่องจะเหมาะแก่การนำมาใช้หรือไม่นั้นจะต้องดูที่สเป๊คของถุงด้วยว่าประกอบมาจากอะไร ซึ่งถุงดังที่กล่าวมาจะมีสเป๊คโดยทั่วไปดังนี้

 

1.Nylon/LLDPE

2.PET/LLDPE

3.OPP/LLDPE

 

 

ขอขอบคุณแหล่งที่มา  :  https://bit.ly/2HoG3Cu

Visitors: 1,569,933